CanaryMedia ของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่บทความพิเศษส่งท้ายปีหัวข้อ "อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ ในปี 2021: ใหญ่โต ซับซ้อน และมีทางเลือก"
ตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงไปและนโยบายพลังงานในประเทศของสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งในปี 2021 ซึ่งเป็นปี "ทางเลือก" การขยายตัวของพลังงานแสงอาทิตย์ก็ยังคงดำเนินต่อไป จากผลลัพธ์จากสามไตรมาสแรก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดสาธารณูปโภค 19 กิกะวัตต์และแผงโซลาร์เซลล์แบบกระจายเกือบ 4 กิกะวัตต์ในปี 2021 ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สร้างสถิติใหม่ให้กับสหรัฐฯ อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์กำลังเฟื่องฟูแม้จะมีต้นทุนการติดตั้งที่สูง การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และภาษีนำเข้าที่ซับซ้อน

การเติบโตของพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐอเมริกานั้นน่าทึ่งและยั่งยืน นอกจากพลังงานแสงอาทิตย์ 23 กิกะวัตต์ที่คาดว่าจะนำมาใช้งานในสหรัฐอเมริกาในปี 2021 แล้ว บริษัทวิจัย S&P Global Market Intelligence ยังคาดการณ์ว่าจะมีพลังงานแสงอาทิตย์ 44 กิกะวัตต์ที่จะเริ่มใช้งานในปี 2022 ซึ่งเกือบจะเป็นสองเท่าของจำนวนในปี 2021 ในอนาคต

ตามรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และ Wood Mackenzie กำลังการผลิตติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รวมในสหรัฐฯ เกิน 100 กิกะวัตต์แล้ว นักวิจัยของ S&P ระบุว่าความต้องการในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีกำลังการผลิต 17.4 กิกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือก่อสร้าง

แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องของราคา PV ได้สิ้นสุดลงแล้ว

เป็นครั้งแรกที่นักวิเคราะห์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์หลายคนจำได้ว่าราคาฮาร์ดแวร์ของระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมที่ราคายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง วัตถุดิบโภคภัณฑ์ทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์กำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงโพลีซิลิคอน เงิน ทองแดง อลูมิเนียม และแก้ว ราคาที่สูงของโพลีซิลิคอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในเซลล์แสงอาทิตย์ซิลิคอนผลึก กำลังส่งผลกระทบต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บางโครงการ โดยทีมงานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของ Bloomberg New Energy Finance ระบุว่าราคาโพลีซิลิคอนในตลาดพุ่งสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 6.30 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมในปี 2020 เป็น 37 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมภายในสิ้นปีนี้
ปัญหาด้านโลจิสติกส์ทั่วโลกทำให้การส่งมอบวัสดุและโมดูล PV ล่าช้า และราคาสูงขึ้น นักวิเคราะห์บางคนประเมินว่าต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น 500% พลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในหลายๆ พื้นที่ แต่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากำลังมีการเจรจาใหม่เนื่องจากอัตรากำไรที่ต่ำมาก อย่างไรก็ตาม ความต้องการพลังงานแสงอาทิตย์ที่สูงทำให้โครงการ PV มีแนวโน้มที่จะล่าช้าชั่วคราวมากกว่าถูกยกเลิก การเพิ่มขึ้นของต้นทุนอินพุตพลังงานแสงอาทิตย์และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนและราคาของการผลิตไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด

ขับเคลื่อนการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐอเมริกา

สหรัฐฯ จะกลายเป็นผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้หรือไม่หากไม่มีห่วงโซ่อุปทานพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ สามารถฟื้นคืนพลังการผลิตได้หรือไม่ ผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ แพ้สงครามกับจีนเป็นส่วนใหญ่ จากกำลังการผลิตโมดูล PV ทั่วโลกเกือบ 400 GW ปัจจุบันสหรัฐฯ มีกำลังการผลิตโมดูล PV เพียง 7.5 GW ตามข้อมูลของ Wood Mackenzie ผู้กำหนดนโยบายที่มุ่งมั่นของสหรัฐฯ พยายามผลักดันกฎหมายผ่านการอุดหนุนและการสนับสนุนเพื่อกระตุ้นการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศและใช้การผลิตไฟฟ้าเป็นเครื่องยนต์สร้างงานที่มีศักยภาพ ในเดือนมิถุนายน 2021 พระราชบัญญัติห่วงโซ่การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (OSSD) ที่เสนอโดยวุฒิสภาจอร์เจียจะให้แรงจูงใจบางส่วนสำหรับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ

อัตราภาษีนำเข้า

ฝ่ายบริหารของไบเดนและทรัมป์ได้ตกลงกันอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง นั่นคือการรักษามาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อสินค้าจีน ซึ่งรวมถึงแผงโซลาร์เซลล์ สำหรับภาษีนำเข้านั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณถามนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ หรือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมคนใด ภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องอธิปไตยทางการค้า หรือเป็นเครื่องมือที่ตรงไปตรงมาซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและแทบไม่ช่วยสร้างอุตสาหกรรมในประเทศเลย เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ไบเดนคงภาษีนำเข้าสำหรับเซลล์และโมดูลโซลาร์เซลล์ซิลิคอนผลึกที่นำเข้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 15% ลดลง 0.25% ต่อปีในช่วงสี่ปีข้างหน้า ในทางกลับกัน สมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ได้ขอให้ไบเดนหยุดเก็บภาษี